วันเสาร์ที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2552

โกลว์วางงบลงทุน 2 ปี รวม1.6หมื่นล้าน

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ การเงิน - การลงทุน

วันที่ 23 เมษายน 2552 00:39

ที่มา: http://www.bangkokbiznews.com/home/news/finance/finance/2009/04/23/news_36011.php

โกลว์วางแผนลงทุนในอีก 2 ปีข้างหน้า ใช้เงินลงทุนรวม 1.6 หมื่นล้านบาท เพื่อขยายโครงการโรงไฟฟ้าต่อเนื่องอีก 2 โครงการ


นายสุทธิวงศ์ คงสิริ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่สายการเงิน บริษัท โกลว์ พลังงาน (GLOW) กล่าวว่าภาพรวมผลประกอบการปีนี้ น่าจะใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา เนื่องจากยอดขายไฟฟ้าให้กับลูกค้าอุตสาหกรรมมีแนวโน้มชะลอตัวประมาณ 5% ซึ่งลูกค้ากลุ่มดังกล่าวได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจซบความต้องการสินค้าลดลง จนกระทั่งต้องปรับลดกำลังการผลิตลง 20% โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมยานยนต์และอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมีการปรับลดกำลังการผลิตลงสูงถึง 50%


"ยอดขายไฟฟ้าให้กับลูกค้าอุตสาหกรรมมีแนวโน้มชะลอตัวลงประมาณ 5% เนื่องจากลูกค้าในหลายกลุ่มธุรกิจขายสินค้าได้น้อยลงตามดีมานด์ที่หดตัวลงทั่วโลก ทำให้ลูกค้าส่วนใหญ่ ปรับลดกำลังการผลิต 20% โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมยานยนต์และอิเล็กทรอนิกส์ที่กำลังเผชิญวิกฤติได้รับลดกำลังการผลิตลงถึง 50% ดังนั้น ยอดขายไฟให้กับลูกค้าในกลุ่มอุตสาหกรรมโดยรวม จึงปรับตัวลดลงจากปีก่อน"
ส่วนกรณีที่นโยบายของรัฐ ยังคงอัตราค่าไฟฟ้าผันแปร หรือ ค่าเอฟทีไว้ในระดับเดิมก็เท่ากับว่า ต้นทุนลดลง ขณะที่ค่าใช้จ่ายหรือภาระที่ต้องแบกรับค่าเอฟทีไม่ได้เพิ่มสูงขึ้น แต่หากรัฐบาลมีนโยบายปรับเปลี่ยนค่าเอฟทีลง เพื่อช่วยเหลือประชาชนในภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ ก็อาจมีผลต่อรายได้ของบริษัท
เขากล่าวว่าภาพรวมของงบลงทุนในปีนี้บริษัทได้ตั้งงบลงทุนเพื่อขยายโครงการโรงไฟฟ้าใหม่ประมาณ 9 พันล้านบาท ประกอบด้วยโครงการโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมที่ใช้ถ่านหินเป็นเชื้อเพลิงขนาดกำลังการผลิต 115 เมกะวัตต์ โดยกำลังการผลิตของโครงการดังกล่าว ได้ทำสัญญาซื้อขายกับลูกค้าทั้งหมดเรียบร้อยแล้วจะเริ่มการผลิตและจำหน่ายได้ในช่วงปลายปี 2552 ซึ่งในส่วนแรกจะใช้เงินลงทุนประมาณ 3 พันล้านบาท ได้เซ็นสัญญากู้เงินไปแล้ว และยังเหลือส่วนที่ 2 อีก 6 พันล้านบาท ธนาคารอนุมัติเรียบร้อยแล้ว แต่ต้องรอการเซ็นรับทราบจากบริษัทเท่านั้น

สำหรับการลงทุนในอีก 2 ปีข้างหน้าบริษัทยังต้องใช้เงินลงทุนรวม 1.6 หมื่นล้านบาท เพื่อขยายโครงการโรงไฟฟ้าต่อเนื่องอีก 2 โครงการ คือโครงการโรงไฟฟ้าเอกชนรายใหญ่ที่ใช้ถ่านหินเป็นเชื้อเพลิงขนาดกำลังการผลิต 660 เมกะวัตต์ หรือ เอ็กโค่-วัน และ โครงการโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมที่ใช้ก๊าซเป็นเชื้อเพลิงขนาดกำลังการผลิต 328 เมกะวัตต์ ระยะที่ 5 บริษัทกำลังศึกษาแนวทางการหาแหล่งเงินทุนแต่มั่นใจว่าจะไม่ใช้การระดมทุนเสนอขายหุ้นกู้หรือเพิ่มทุน เพราะภาพรวมตลาดไม่น่าสนใจรวมทั้งบริษัทมีอัตราหนี้สินต่อทุนต่ำเพียง 1.6 เท่า สามารถเลือกแนวทางการกู้เงินจากสถาบันการเงิน

นอกจากนี้ ภายในเดือนนี้ บริษัท จะดำเนินการเข้าซื้อหุ้นโรงไฟฟ้าพลังน้ำในประเทศลาวในโครงการโรงไฟฟ้าห้วยเฮาะ กำลังการผลิต 152 เมกะวัตต์ จากสุเอซผู้ให้บริการพลังงานระหว่างประเทศ และเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัท โดยจะเตรียมเข้าซื้อหุ้นในสัดส่วน 67.25% โครงการลงทุนมีมูลค่า 5 พันล้านบาท โดยจะเริ่มรับรู้รายได้เข้ามาในช่วงประมาณไตรมาส 3 ซึ่งคาดว่าการเข้าซื้อโรงไฟฟ้านี้จะช่วยสร้างกำไรให้บริษัท 150 ล้านบาทต่อปี
สาเหตุที่เข้าซื้อหุ้น เนื่องจากสนใจเข้าไปทำธุรกิจในประเทศลาว ซึ่งตอนนี้กำลังศึกษาโปรเจคใหม่เพื่อพัฒนาธุรกิจในประเทศลาวต่อไป โดยตอนนี้พิจารณาอยู่หลายโครงการ และโครงการที่น่าจะเป็นไปได้มากที่สุด คือ โปรเจคเสริมยูนิตการจำหน่ายในโรงงานไฟฟ้าพลังน้ำ เนื่องจากตามปกติแล้วโรงไฟฟ้าพลังน้ำจะผลิตได้ไม่เต็มกำลังและไม่สามารถเดินเครื่องได้ตลอดทั้งปี

จากการรวบรวมโครงสร้างผู้ถือหุ้นของบริษัทโกลว์ พลังงาน ณ วันที่ 8 เม.ย. 2552

พบว่านักลงทุนสถาบันในประเทศได้เพิ่มสัดส่วนการถือหุ้น

ขณะที่นอมินีต่างประเทศพาเหรดทิ้งหุ้น ประกอบด้วย

สำนักงานประกันสังคม ถือหุ้น 30.02 ล้านหุ้นคิดเป็น 2.05% จากเดิมที่ถือลงทุน 19.40 ล้านหุ้น คิดเป็น 1.33%

และบริษัท ทุนลดาวัลย์ ถือหุ้น 14.44 ล้านหุ้น คิดเป็น 0.99%จากเดิมที่ไม่เคยถือลงทุน

ขณะที่สถาบันต่างประเทศพาเหรดลดส่วนประกอบด้วย สเตท สตรีท แบงก์ แอนด์ ทรัสต์ คอมพานี ฟอร์ ลอนดอน ถือหุ้น 55.49 ล้านหุ้นจากเดิมที่เคยถือหุ้น 68.69 ล้านหุ้น ลดลง 13.14 ล้านหุ้น เชส นอมินีส์ ลิมิเต็ด 1 ถือหุ้น 18.53 ล้านหุ้น จากเดิมถือ 21.01 ล้านหุ้น ลดลง 2.47 ล้านหุ้น ลิตเติลดาวน์ นอมินีส์ ลิมิเต็ด 7 ถือหุ้น17.82 ล้านหุ้น จากเดิมที่ถือหุ้น 22.54 ล้านหุ้น ลดลง 4.72 ล้านหุ้น เอชเอสบีซี (สิงคโปร์) นอมินีส์ พีทีอี ถือหุ้น 10.46 ล้านหุ้น จากเดิม 12.26 ล้านหุ้น ลดลง 1.79 ล้านหุ้น เชส นอมินีส์ ลิมิเต็ด 42 ถือหุ้น 7.35 ล้านหุ้น จากเดิมถือ 9.01 ล้านหุ้น ลดลง 1.66 ล้านหุ้น