ที่มา:โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
วันที่ 21 กรกฎาคม 2552 09:01
นางสาวอมรา เจริญกิจวัฒนกุล กรรมการ บริษัท สวนอุตสาหกรรมโรจนะ เปิดเผยว่า บริษัทยังคงเป้าหมายรายได้รวมปีนี้ ไม่ต่ำกว่าปีก่อนที่มีรายได้รวม 6,679 ล้านบาท
ส่วนกำไรสุทธิ เชื่อว่าจะมากกว่าปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 601 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทได้รับผลกระทบจากวิกฤติเศรษฐกิจโลกตั้งแต่ปีที่แล้วทำให้ไม่มีการเติบโต แต่บริษัทจะพยายามรักษาความสามารถในการทำกำไรไม่ให้ลดลงจากปีที่แล้ว ส่วนสถานการณ์ทางเศรษฐกิจครึ่งปีหลัง เชื่อว่าจะดีขึ้นจากครึ่งปีแรกและเชื่อว่าเศรษฐกิจโลกได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว
"ปีนี้บริษัทคงไม่ตั้งเป้าอะไรมาก จะเป็นปีที่บริษัทพยายามรักษาผลการดำเนินงานให้เดินต่อไปได้ด้วยระดับที่ดี โดยปัจจัยต่างๆ เริ่มดูดีขึ้น และเชื่อว่าเศรษฐกิจโลกน่าจะผ่านจุดต่ำสุดแล้ว โดยบริษัทยังคงรักษารายได้ให้ใกล้เคียงปีก่อน ส่วนกำไรคาดว่าไม่น่าต่ำกว่าปีก่อน"
เธอกล่าวว่า บริษัทยังมีมุมมองต่อแนวโน้มผลประกอบการไตรมาสที่ 2/2552 เป็นบวก และเชื่อว่าผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 2/2552 จะดีกว่าไตรมาส 1/2552 เพราะเริ่มมีสัญญาณเชิงบวกมากขึ้น โดยพบว่าตัวเลขทางเศรษฐกิจหลายๆ ตัวอยู่ในเกณฑ์ดี รวมถึงทิศทางของสาธารณูปโภคดีขึ้น นอกจากนี้ บริษัทมีที่ดินที่รอโอนมาจากปีก่อนที่จะทยอยโอนณ สิ้นเดือน มิ.ย.บริษัทมีที่ดินในมือเพื่อรอการโอนอีกประมาณ 180 ไร่ หรือคิดเป็นมูลค่า 400-500 ล้านบาท โดยได้เริ่มทยอยโอนไปแล้วในช่วงไตรมาส 1/2552 ประมาณกว่า 100 ล้านบาท
ทั้งนี้ บริษัทยังคงเป้ายอดขายที่ดินในปีนี้ ไว้ตามประมาณการเดิม คือ ประมาณ 400-500 ไร่ เนื่องจากในช่วงปลายไตรมาส 1/2552 หลายอุตสาหกรรมที่ยอดการผลิตเคยตกต่ำเริ่มฟื้นตัวขึ้น และเริ่มกลับมาผลิตและจ้างงานมากขึ้น ขณะเดียวกัน รัฐบาลก็ได้มีมาตรการต่างๆ ออกมา เพื่อส่งเสริมการลงทุน และมีการโรดโชว์ในต่างประเทศ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและความเชื่อมั่นของผู้บริโภค
"เชื่อว่าสถานการณ์หลายๆ อย่างเริ่มดีขึ้น และถ้าการเมืองนิ่งไม่มีความรุนแรงแบบนี้ ก็น่าจะส่งผลดีต่อการลงทุน ซึ่งเชื่อว่าลูกค้ายังไม่หนีไปไหน แต่รอให้สถานการณ์นิ่งก่อน ตราบใดที่ความต้องการฟื้นตัว อุตสาหกรรมต่างๆ ก็จะกลับมา ลูกค้าของบริษัทเป็นกลุ่มของอิเล็กทรอนิกส์และกลุ่มเวชภัณฑ์"
ผลประกอบการไตรมาส 1/2552 บริษัทสวนอุตสาหกรรมโรจนะ มีรายได้รวม 1,364 ล้านบาท ลดลง 14.60% จากงวดเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 1,597 ล้านบาท เนื่องจากรายได้จากการขายที่ดินลดลง เพราะได้รับผลกระทบจากวิกฤติสินเชื่อสหรัฐ ส่งผลให้การขยายตัวของเศรษฐกิจทั่วโลกลดลง ประกอบกับปัญหาการเมืองของประเทศไทย ที่มีผลต่อการท่องเที่ยวและการลงทุน ทำให้นักลงทุนเกิดการชะลอตัวในการรายได้จากการขายอาคารชุดเพิ่มขึ้น เนื่องจากรับรู้รายได้เป็นครั้งแรกสำหรับโครงการในประเทศจีน
ขณะที่กำไรสุทธิไตรมาส 1/2552 อยู่ที่ 73.82 ล้านบาท ลดลง 63.07% จากงวดเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 199.90 ล้านบาท
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น